TAX & VAT คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร

by taxlaw
0 comment
TAX & VAT

TAX & VAT คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร

TAX & VAT คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะ TAX กับ VAT เชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นมีคามสงสัยกันแน่นอน เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีการถกเถียงกัน ดังนั้นบทความนี้ กฏหมายภาษี เราจะมานำเสนอว่าทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร

TAX (ภาษี) คืออะไร

TAX คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากประชาชน เพื่อนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่ได้มีสิ่งตอบแทนโดยตรงแก่ผู้เสียภาษีอากร และแบ่งออกเป็นภาษีทางตรง คือ ภาษีที่ไม่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้ และภาษีทางอ้อม คือ ภาษีที่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้

ดังนั้นใครมีหน้าที่เสีย TAX (ภาษี) หากกรณีที่เป็นบุคคลที่มีรายได้ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง จะมีหน้าที่ในการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีทางตรงที่คำนวณแบบขั้นบันไดทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 

VAT (Value Added Tax) ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการเก็บภาษีจากการขายสินค้าหรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดอยู่ในภาษีทางอ้อม

ดังนั้นผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิต หรือเป็นผู้ที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพเป็นปกติธุระ ไม่ว่าจะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ หากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี และมีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน

สำหรับประชาชนทั่วไปไม่ได้เสียภาษีโดยตรง แต่ผู้ประกอบการจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และออกใบกำกับภาษีเพื่อเป็นหลักฐานในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเท่ากับเป็นการเสียภาษีทางอ้อม

วิธีคิด VAT จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทมีอะไรบ้าง

  1. วิธีคิด VAT ใน

สำหรับการคิดวิธีนี้มีไว้ใช้คำนวณ เมื่อจ่ายค่าสินค้าไปแล้วในราคาแบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องการรู้ราคาสินค้าหรือบริการจริง ๆ ก่อนรวม VAT คือเท่าไร โดยสามารถใช้สูตรคำนวณดังนี้

ราคาสินค้าหรือบริการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว x (100 / 107) = ราคาสินค้าหรือบริการที่ยังไม่รวม VAT

เช่น จ่ายบิลค่าน้ำรวม VAT แล้วเป็นเงิน 250 บาท สามารถคิดได้เป็น 250 x (100 / 107) = 233.64 หรือประมาณ 234 บาท ซึ่งเท่ากับว่ามีค่า VAT อยู่ที่ 250 – 234 = 16 บาท

  1. วิธีคิด VAT นอก

สำหรับการคิดวิธีนี้มีไว้ใช้คำนวณ เมื่อราคาสินค้ายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องการรู้ราคาแบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องจ่ายคือเท่าไร โดยสามารถใช้สูตรคำนวณดังนี้

ราคาสินค้าหรือบริการ + [(ราคาสินค้าหรือบริการ x 7) / 100] = ราคาสินค้าหรือบริการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

เช่น บิลจ่ายค่าโทรศัพท์รายเดือน 590 บาท สามารถคิดได้เป็น 590 + [(590×7) / 100] = 631.3 บาท เท่ากับว่าจะต้องเสีย VAT เพิ่มอีก 41.3 บาท

You may also like

Leave a Comment