เราจะลดหย่อนภาษีจากอะไรได้บ้าง

by taxlaw
0 comment
ลดหย่อนภาษี

เราจะลดหย่อนภาษีจากอะไรได้บ้าง

มือใหม่อาจจะงงว่าการลดหย่อนภาษีคืออะไร การลดหย่อนภาษีคือ “รายการต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ให้นำไปหักออกจากเงินได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว” หรือเพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า หากรายได้ต่อปีของเราน้อยกว่า 150,000 บาท คุณไม่จำเป็นต้องเสียภาษี แต่ถ้าเกินนั้นต้องหักรายจ่ายก่อน (รัฐกำหนดไว้ที่ 40% ของรายได้รวม แต่ไม่เกิน 60,000 บาท) และหากมีค่าลดหย่อนเพิ่มเติมจะพิจารณาภายหลัง วันนี้ กฏหมายภาษี จะพามาดู

รายการที่จะช่วยให้เราลดหย่อนภาษีได้

1. กู้เงินซื้อ/สร้างบ้าน ลดหย่อนไม่เกิน 100,000 บาท

คุณรู้หรือไม่ว่าการกู้เงินเพื่อซื้อหรือสร้างบ้านนั้นอยู่ในรายการหักลดหย่อนภาษีได้ หากเราต้องผ่อนชำระ ไม่ว่าจะซื้อ สร้าง ให้เช่า หรือสร้างอาคารใด ๆ เพื่อที่อยู่อาศัย สามารถนำดอกเบี้ยรวมที่จ่ายต่อปีมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะ ช่วยให้เราลดหย่อนภาษีได้มาก รวมถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยสามารถช่วยให้เราได้บ้านทั้งหลัง และประหยัดภาษีได้อีกด้วย

2. เลี้ยงดูลูก ลดหย่อนได้ 30,000 บาท

ถ้ามีบุตรจะสามารถนำค่าเลี้ยงดูไปหักลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท ในรายการลดหย่อนภาษีระบุว่าลูกของเราต้องเป็นลูกโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มีกี่คนก็จะหักตามที่พวกเขามี แต่ถ้าเป็นการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม หากคุณมีบุตรตามกฎหมาย 3 คน คุณจะไม่สามารถรวมบุตรบุญธรรมเพื่อหักลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้ เด็กแต่ละคนต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท (“รายได้” คือ รายได้จากการทำงาน ไม่ใช่รายได้จากการเลี้ยงดูบุตร) และเป็นผู้เยาว์ หรือกรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 25 ปี จะต้องเรียนในระดับอุดมศึกษา

3. ลงทุน RMF และ LTF ลดได้ 15% ของเงินได้

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMFs) และกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นกองทุนที่หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งที่ได้ยินมานั้นถูกต้องแล้ว เพราะกองทุนรวมเหล่านี้อยู่ในรายการหักลดหย่อนภาษีได้ หากเราซื้อหน่วยลงทุนในสองกองทุนนี้ เราจะได้รับการยกเว้นภาษีตามที่เราจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 500,000 บาท

สำหรับกองทุน RMF มีเงื่อนไขให้รวมเบี้ยประกันชีวิตบำเหน็จบำนาญด้วย เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินสะสมเข้ากองทุนสวัสดิการตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และนำเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติไม่เกิน 500,000 บาท

และสำหรับรายการหักลดหย่อนภาษีกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) มีเงื่อนไขว่าเราต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน

แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้จะอยู่ในรายการหักลดหย่อนภาษีได้ แต่ความจริงแล้วทุกคนต้องเข้าใจว่าทั้งกองทุน RMF และ LTF ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักในการหักลดหย่อนภาษีให้เรา ดังนั้นเราควรศึกษาผลิตภัณฑ์และเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ

4. บริจาคสนับสนุนการศึกษา ลดหย่อน 2 เท่า ไม่เกิน 10% ของเงินได้

รายการสุดท้ายของการลดหย่อนภาษี คือการลงทุนในการศึกษา ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว รัฐบาลที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนครั้งนี้ ได้สนับสนุนให้เราบริจาคเงินเพื่อการศึกษา มีมาตรการลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 เท่าของจำนวนเงินที่ชำระจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่อปี

เพื่อการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น ๆ เพื่อการศึกษา นอกจากนี้ยังอยู่ในรายการลดหย่อนภาษีด้วยมาตรการเดียวกัน เช่น การบริจาคเพื่อสนับสนุนกีฬา เงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา กองทุนส่งเสริมวัฒนธรรม กองทุนเสริมศิลปะร่วมสมัย กองทุนส่งเสริมโบราณคดี หรือ กองทุนโบราณคดี และบริจาคให้กับโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน เป็นต้น นอกจากนี้ การบริจาคทั่วไปที่มีหลักฐานการบริจาคชัดเจน เป็นรายการหักลดหย่อนภาษีที่หักได้เต็มจำนวน แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วด้วย

4 วิธีลดหย่อนภาษีข้างต้น มันน่าจะช่วยให้บางคนสงสัยว่าทำไมบางคนที่มีรายได้มากกว่าเราจ่ายภาษีน้อยกว่า นี่เป็นวิธีการลดหย่อนภาษีที่ใคร ๆ ก็ทำได้ และถ้าอยากรู้ว่าเราลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ก็ลองคำนวณค่าลดหย่อนภาษีดูว่าเราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และมีจุดไหนที่ลดได้อีก แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้เยอะเลย

ที่มา https://www.krungsri.com/th/planyourmoney/must-stories/tax-plan/10-methods-to-reduce-taxes

You may also like

Leave a Comment