เทคนิคการลดหย่อนภาษีที่ทุกคนควรรู้

by taxlaw
0 comment
ลดหย่อนภาษี

เทคนิคการลดหย่อนภาษีที่ทุกคนควรรู้

การลดหย่อนภาษีหรือการยกเว้นภาษีเงินได้ เป็นสิทธิทั่วไปที่ผู้มีรายได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนด มีสิทธิหักลดหย่อนภาษีได้หลายรายการตามรายการหักลดหย่อนภาษีได้ ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปดู 5 รายการลดหย่อนภาษี เพื่อให้สามารถลดและลดภาระค่าใช้จ่ายได้ วันนี้ กฏหมายภาษี จะพามาดู

5 รายการลดหย่อนภาษี

1. เป็นผู้มีเงินได้ ลดหย่อน 60,000 บาท

การลดหย่อนภาษีรายการแรกนี้ เราไม่ต้องดำเนินการใด ๆ แค่เราเป็นคนไทยที่มีหน้าที่เสียภาษี เราสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท ซึ่งถือเป็นค่าเลี้ยงดูสำหรับตัวเราเอง หรือถ้าเรามีคู่สมรสแล้วคู่สมรสของเราไม่มีรายได้ ก็ลดได้อีก 60,000 บาทเช่นกัน

2. ทำประกันสังคม ลดหย่อนเต็มจำนวน

ประกันสังคมน่าจะเป็นสิ่งพนักงานประจำหลายคนคุ้นเคย แต่บางคนอาจไม่รู้ว่าประกันสังคมก็เป็นรายการหักลดหย่อนภาษีอย่างหนึ่งได้เช่นกัน แต่ละองค์กรหรือบริษัทจะหัก 5% ของเงินเดือนของคุณ นอกจากนี้ ผู้ที่ลาออกจากงานประจำหรือฟรีแลนซ์ สามารถสมัครประกันสังคมได้ด้วยตนเอง แค่ต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี ดังนั้นใคร ๆ ก็สามารถนำเบี้ยประกันสังคมมาสมัครลดหย่อนภาษีได้ และกรมสรรพากรก็สามารถหักเงินที่จ่ายจริงเต็มจำนวนได้เช่นกัน

3. ทำประกันชีวิต ลดหย่อนไม่เกิน 100,000 บาท

รายการต่อไปของการลดหย่อนภาษี คือประกันชีวิต เราสามารถใช้เบี้ยประกันชีวิตที่ต้องจ่ายรวมต่อปีเพื่อขอลดหย่อนภาษีเงินได้มากเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท อย่างไรก็ตาม ประกันชีวิตต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ทำประกันชีวิตให้สามีหรือภริยาสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ แบ่งเป็น 2 กรณี

  • สามีหรือภรรยาไม่มีเงินได้สามารถนำเบี้ยที่จ่ายจริงไปเป็นค่าลดหย่อนได้แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
  • สามีภรรยาเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 90,000 บาท

ประกันสุขภาพ สามารถนำเบี้ยประกันมาได้รับการยกเว้นภาษีตามที่จ่ายจริงได้ แต่ไม่เกิน 15,000 บาท แต่เบี้ยประกันสุขภาพต้องรวมกับประกันชีวิตทั่วไป + เงินประกันแบบประกันชีวิตไม่เกิน 100,000 บาท

  ประกันบำเหน็จบำนาญ สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ 15% ของจำนวนเงินที่ชำระจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับประกันชีวิต คือ ต้องเป็นประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี หรือ มากขึ้นและเป็นการประกันภัยที่ทำในประเทศไทยเท่านั้น ผู้เอาประกันภัยต้องระบุช่วงอายุที่สามารถจ่ายผลประโยชน์ได้ตั้งแต่ 55-85 ปี ขึ้นไป และเราต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนก่อนรับผลประโยชน์

4. สมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. ลดหย่อน 15% ของเงินได้

สำหรับรายการหักลดหย่อนภาษีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่ลูกจ้างและนายจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นประกันให้แก่ลูกจ้างกรณีลาออกจากงาน ลาออกจากกองทุนหรือเสียชีวิต เงินที่หักจากลูกจ้างเรียกว่า “สะสม” และเงินที่นายจ้างจ่ายเรียกว่า “เงินสมทบ” กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคล้ายกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จำนวนเงินที่เราบริจาคลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 10,000 บาท แต่ถ้ามากกว่า 15% ของรายได้ต่อปีแต่ไม่เกิน 500,000 บาท

5. เลี้ยงดูพ่อแม่ ลดหย่อนได้ 30,000 บาท

หลายคนอาจจะไม่ทราบ แค่เลี้ยงดูพ่อแม่หรือคู่สมรสที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งสามารถหักลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท กรณีผู้ปกครองมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท ก่อนยื่นภาษีต้องกรอกหนังสือรับรองการหักเงินเลี้ยงดูบุตร (ลย03) จึงจะสมัครได้ นอกจากนี้ หากบิดามารดาหรือบิดามารดาของคู่สมรสมีประกันสุขภาพ สามารถหักลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท อย่างไรก็ตาม บิดามารดาของตนเองหรือคู่สมรสต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท

  นอกจากนี้ หากบิดามารดาหรือบิดามารดาของคู่สมรสมีประกันสุขภาพ สามารถรับเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท อย่างไรก็ตาม บิดามารดาของตนเองหรือคู่สมรสต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท

และนี่ก็คือ 5 รายการลดหย่อนภาษีที่สามารถช่วยให้คุณลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ บางรายการนั้น หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าเราสามารถยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ แต่ในเมื่อรู้แล้วก็อย่าลืมทวงสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีในครั้งหน้าด้วยล่ะ

ที่มา https://www.krungsri.com/th/planyourmoney/must-stories/tax-plan/10-methods-to-reduce-taxes

You may also like

Leave a Comment