
ภาษีเงินปันผลเป็นอย่างไร
หากพูดถึงเครดิตภาษีเงินปันผล ที่นักลงทุนควรรู้ เพราะเรื่องการเครดิตภาษีเงินปันผลไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด ผู้ถือหุ้นทุกคนควรรู้และเลือกใช้สิทธิให้เป็น ดังนั้นหากนักลงทุนที่ยังไม่ทราบว่าเครดิตภาษีเงินปันผลคืออะไร อยากเครดิตภาษีต้องทำอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้เครดิตภาษีหรือไม่ สามารถบทความนี้ กฏหมายภาษี ได้เลย

เครดิตภาษีเงินปันผลคืออะไร
เป็นอีกสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่สามารถขอคืนภาษีจากกรมสรรพากรได้ เนื่องมาจากความซ้ำซ้อนในการจัดเก็บภาษีเงินได้ หรือมันก็คือเงินปันผลมาจากกำไรสุทธิของบริษัท แต่กำไรสุทธินี้ได้เสียภาษีไปแล้วครั้งหนึ่งในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคล และเมื่อบริษัทนำกำไรสุทธิมาจ่ายเป็นเงินปันผล นักลงทุนยังต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 10% ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นการเสียภาษีซ้ำซ้อนจากกำไรก้อนเดียวกัน ภาครัฐจึงอนุญาตให้นักลงทุนขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนได้บางส่วน นักลงทุนสามารถดูอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทได้จาก หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งนักลงทุนต้องเก็บหนังสือรับรองนี้ไว้เป็นหลักฐาน เผื่อกรณีที่กรมสรรพากรขอหลักฐานเพิ่มเติมภายหลังด้วย

ควรนำเงินปันผลที่ได้รับมารวมคำนวณภาษีและใช้เครดิตภาษีเงินปันผลหรือไม่
การที่จะเลือกใช้เครดิตภาษีเงินปันผลหรือไม่ ให้พิจารณาจาก ฐานภาษีเงินได้ของนักลงทุน เปรียบเทียบกับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ของบริษัทที่นักลงทุนได้รับเงินปันผล
ถ้าฐานภาษีเงินได้ของเรามากกว่าอัตราภาษีเงินได้ของบริษัท ไม่ควรใช้เครดิตภาษีเงินปันผล
ถ้าฐานภาษีเงินได้ของเราน้อยกว่าอัตราภาษีเงินได้ของบริษัท ควรใช้เครดิตภาษีเงินปันผล
แต่ข้อควรระวังในการเลือกใช้เครดิตภาษีเงินปันผลคือ หากตัดสินใจเลือกนำเงินปันผลมาเครดิตภาษีแล้ว จะต้องนำเงินปันผลทุกรายการที่ได้รับมาคำนวณ จะเลือกนำเฉพาะรายการใดรายการหนึ่งไม่ได้

ภาษีเงินปันผลขอคืนภาษีอย่างไร
การขอคืนภาษีจากหุ้นปั่นผล สามรถขอคืนภาษีย้อนหลังที่ถูกเรียกเก็บ 10% ณ จ่ายได้ โดยใช้สิทธิเครดิตภาษีเงินปั่นผล ซึ่งเครดิตภาษีเงินปันผลคือ การขอคืนภาษี จากการลงทุนในหุ้นแล้วได้รับเงินปันผล สาเหตุที่ต้องมีเครดิตภาษีเงินปันผลเป็นเพราะปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน
สำหรับหุ้นปันผลที่ถูกมองว่ามีการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน เพราะการที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ บริษัทต้องประกอบธุรกิจจนมีกำไร จากนั้นบริษัทก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ก่อนจะกลายมาเป็นเงินปันผล ส่งต่อให้ผู้ถือหุ้น ประกอบกับตอนที่ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผล ยังต้องจ่ายภาษี ณ ที่จ่ายอีก 10% อีกด้วยจึงถูกมองว่าเป็นการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน