
ภาษีย้อนหลัง ที่ใครไม่โดนคงไม่รู้สึก
ภาษีย้อนหลังนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฤดูกาลยื่นภาษีมาถึงเมื่อไหร่ ในฐานะพลเมืองที่ดีในประเทศแห่งนี้ต่างก็วุ่นวายหาเอกสารประกอบการยื่นภาษีกันมือเป็นระวิง สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งจะมีโอกาสยื่นภาษีเป็นครั้งแรกในปีนี้ หรือบางคนที่อาจไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนเลย ต้องระมัดระวังให้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าใครได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองก็คงเคยผ่านตามาบ้างกับกรณีผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นทองคำมูลค่า 10 ล้านบาท แต่โดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นล้าน! ด้วยความไม่รู้ว่ารางวัลก็นับเป็นรายได้อย่างหนึ่ง เห็นมั้ยว่าเรื่องใกล้ตัวขนาดนี้ แต่หลายคนก็ยังพลาดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เชื่อว่าไม่มีใครอยากเจอภาษีย้อนหลังแน่ ๆ วันนี้ กฏหมายภาษี จะพามาดู

เราซึ่งเป็นบุคคลผู้มีรายได้ จึงไม่ควรหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีในแต่ละปี เพื่อจะได้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์โดนค่าปรับจากการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ฉะนั้นมาทำความรู้จักกับคำว่า การเก็บภาษีย้อนหลัง (Retroactive tax) ซึ่งเป็นการตรวจสอบการยื่นภาษีเพื่อป้องกันและปราบปรามทางภาษีอากร
ใครที่เป็นผู้ดูแลการเก็บภาษีย้อนหลัง
ผู้ดูแลการเก็บภาษีย้อนหลัง มี 3 หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต แต่ที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง คือ กรมสรรพากร ที่มีกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีธุรกิจ

โดยที่คุณจะเข้าข่ายโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง หากคุณไม่จ่ายภาษี และจ่ายภาษีไม่ถูกต้อง หรือเลี่ยงภาษี จ่ายภาษีไม่ครบตามที่ระบุ เป็นต้น แล้วกรมสรรพากรจะทราบได้อย่างไร? เขามีวิธีการตรวจสอบ ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนแรก คือ การตรวจแนะนำด้านภาษี ขั้นตอนต่อมา คือ การเตือนให้ยื่นแบบ ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์และการตรวจสอบแบบแสดงรายการภาษี ขั้นตอนที่ 4 การตรวจปฏิบัติการ และขั้นตอนสุดท้ายคือ การออกหมายเรียก ซึ่งลำดับขั้นความรุนแรงก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับไป แต่เรามีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ เพื่อที่คุณจะไม่โดนภาษีย้อนหลังอย่างแน่นอน
ขั้นตอนการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีย้อนหลัง
1. ยื่นภาษีทุกปี
หลาย ๆ คนที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน คิดว่าตัวเองเงินเดือนไม่ถึงจึงไม่ต้องยื่นภาษี แต่จริง ๆ แล้ว เรามีรายได้เท่าไหร่ก็ต้องยื่นภาษี เพื่อความปลอดภัยเราควรยื่นภาษีทุกปี และต้องตรวจสอบเอกสารรายรับของเราให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนยื่นภาษี ที่สำคัญต้องดูว่ารายรับของเราอยู่ในเงินได้ประเภทไหน และอย่าลืมใช้สิทธิ์การลดหย่อนภาษียิ่งถ้าคุณลงทุนโดยการซื้อกองทุน หน่วยลงทุนต่าง ๆ ไว้ คุณอาจได้เงินคืนภาษีด้วย ถ้ายังไม่แน่ใจลองคำนวณภาษีเบื้องต้น Calculator Tax ก่อนได้ที่นี่
2. ทำบัญชีรายเดือน
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน นอกจากช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายของเราแล้ว ยังทำให้เรามีหลักฐานการมีรายได้เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีในแต่ละปีได้อีกด้วย บางคนมีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือน ก็ต้องนำมายื่นภาษีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถวางแผนลดหย่อนภาษีแบบเฉลี่ยเป็นรายเดือนได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงปลายปี เป็นการจัดการและบริหารบัญชีแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
3. ติดตามข่าวสารเรื่องภาษี
คุณควรที่จะติดตามข่าวสารเรื่องการยื่นภาษี เพราะแต่ละปีจะมีกฎหมาย หรือเงื่อนไขใหม่ๆ ออกมา ที่อาจเป็นผลประโยชน์ต่อเราในการลดหย่อยภาษี ถ้ามีข้อสงสัยแนะนำให้สอบถามไปยังกรมสรรพากร สามารถเช็กยอดภาษี วิธีการตรวจภาษี การขอลดค่าปรับ หรือการขอเงินเพิ่ม ถ้าจะให้ดีเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรเพื่อความถูกต้องกันเลย
http://www.rd.go.th/publish/272.0.html
หากรู้เช่นนี้แล้ว เราก็ต้องวางแผนและจัดการการเสียภาษีของเราให้ดี ๆ เพื่อจะไม่ต้องหมดตัวไปกับภาษีที่เราคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน