กรมสรรพสามิตดำเนินการขึ้นภาษีความหวาน

by taxlaw
0 comment
กรมสรรพสามิต

กรมสรรพสามิตดำเนินการขึ้นภาษีความหวาน

กรมสรรพสามิตเคาะ ขึ้นภาษีความหวาน กะเทือนสายชอบความหวานต้องร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตาม ๆ กัน เมื่อตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 มีรายงานว่า กรมสรรพสามิต จะเตรียมจัดเก็บภาษีความหวานมันเค็มเพิ่ม สำหรับความหวานนั้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม โดยจะส่งผลกระทบทำให้เครื่องดื่มที่ให้ความหวาน อาทิ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง ได้มีการปรับราคาขึ้นตามภาษี โดยคาดว่าเตรียมปรับขึ้น 1 บาท ต่อขวดขนาด 1 ลิตร และจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 5 บาท ภายในปี 2564 ที่ผ่านมา 

และทางกรมสรรพสามิตเองก็มีการเร่งศึกษาแนวทางการเก็บภาษีความเค็มและความมันเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชากรไทยส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารที่มีปริมาณความเค็มมากเกินไปกว่า 2-3 เท่าตัว ตลอดจนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยเช่นกัน กฏหมายภาษี

เหตุผลในการขอขึ้นภาษีความหวานของกรมสรรพสามิต 1 บาท ต่อ 1 ลิตร

ซึ่ง นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต ได้เปิดเผยว่า เหตุผลในการเก็บภาษีเพื่อสุขภาพในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะช่วยรัฐบาลจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 4,000 ล้านบาท ในแต่ละปีงบประมาณ โดยผู้ผลิตสินค้าสามารถปรับปรุงสูตรใหม่ ๆ ที่จะทำการลดปริมาณน้ำตาลลงได้ เพื่อให้สินค้าเครื่องดื่มที่ให้ความหวานต่าง ๆ มีรสชาติเป็นมิตรกับสุขภาพในท้องตลาดเพิ่มขึ้น จากเดิม 30 ชนิด ตอนนี้เป็น 100 ชนิดแล้ว ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี

รายการเครื่องดื่มในท้องตลาดที่มีการเรียกเก็บภาษีความหวาน

1. โค้ก (Coca Cola)

ทางบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า สไปรท์ ชเวปส์ ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับราคาสินค้าขึ้นจริง โดยสาเหตุหลักมาจากการขึ้นภาษีความหวานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยจะทำการปรับเฉพาะสินค้าบางรายการเท่านั้น เช่น โค้ก แฟนต้า สไปรท์ ในบรรจุภัณฑ์แบบพีอีที และจะขึ้นขวดละ 2-3 บาท ส่วนขวดแก้วนั้นยังตรึงราคาขายไว้เท่าเดิม

2. เป๊ปซี่ (Pepsi)

ทางบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม อาทิ ดื่มเป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่นอัพ ฯลฯ คอนเฟิร์มแล้วว่า บริษัทได้มีนโยบายปรับราคาสินค้าของเครื่องดื่มเป๊ปซี่ในรูปแบบขวดพีอีทีทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด 345 มล. ขึ้นจากเดิมราคา 10 บาท เป็นราคา 12 บาท ขนาด 430 มล. จากเดิมราคา 12 บาท เป็น 15 บาท และขนาด 640 มล. จากเดิมราคา 15 บาท เป็น 17 บาท ซึ่งเป็นการปรับให้สอดคล้องเหมาะสมกับการขึ้นภาษีความหวานและกลไกของตลาดที่เกิดขึ้น 

ทั้งนี้ การขึ้นภาษีความหวานดังกล่าว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการลดปริมาณความหวานของเครื่องดื่มลงเพื่อสุขภาพของเครื่องบริโภคเอง และเมื่อราคาเครื่องดื่มเหล่านี้สูงขึ้นยังช่วยลดความต้องการของการดื่มเครื่องดื่มให้ความหวานต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน 

You may also like

Leave a Comment