
กฎหมายภาษีอากรไทยคืออะไร?
ระบบกฎหมายภาษีอากรของไทยเป็นสาขาหนึ่งของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนในประเทศไทยจ่ายภาษีของตน กฎหมายกำหนดตามภูมิภาค ประเภทของภาษีที่บังคับใช้ในประเทศไทย และหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการจัดการภาษีเหล่านี้
หน้าที่ของการเก็บภาษีอากร
การจัดเก็บภาษีอากรเป็นความรับผิดชอบที่รัฐบาลไทยมอบหมายให้กรมสรรพากร (IRD) โดยธรรมชาติในความรับผิดชอบนี้คือบทบาทของ IRD ในฐานะผู้รวบรวมรายได้อิสระ
—
กฎหมายภาษีอากรของประเทศไทยตั้งอยู่บนแนวทางและหลักการที่กำหนดโดยกฎหมายภาษีระหว่างประเทศและเอเชีย และได้รับการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ระบบภาษีของประเทศไทยได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกซึ่งมีระบบที่ใช้งานง่าย

กฎหมายภาษีอากรของประเทศไทย
กฎหมายภาษีอากรของประเทศไทยกำหนดอัตราภาษีเงินได้แบบก้าวหน้าดังนี้ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 0 – 150,000 บาทต่อปีจ่าย 0% เป็นภาษีเงินได้ ผู้มีรายได้ตั้งแต่ เกิน 150,000 – 300,000 จ่าย 5% ผู้มีรายได้ตั้งแต่ เกิน 300,000 – 500,000 บาท จ่าย 10% ผู้มีรายได้จาก เกิน 500,000 – 750,000 บาท จ่าย 15% เกิน 750,000 – 1,000,000บาท จ่าย 20% เกิน 1,000,000 – 2,000,000 บาท จ่าย 25% เกิน 2,000,000 – 5,000,000 บาท จ่าย 30% และ เกิน 5,000,000 บาทขึ้นไป จ่าอยู่ที่ 35%
อัตราภาษีเงินได้: ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีระบบภาษีแบบก้าวหน้า แต่ประเทศไทยมี ระบบภาษีแบบก้าวหน้าเป็นระบบที่ผู้ที่มีรายได้สูงกว่าจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น
อัตราภาษีเงินได้:
– ประเทศไทยมีระบบภาษีเงินได้แบบก้าวหน้าที่รายได้ที่ต้องเสียภาษีของคุณสูงขึ้น ภาษีที่คุณต้องจ่ายมากขึ้น
– กลุ่มรายได้ที่ต้องเสียภาษีต่ำสุดคือ 5,000 บาท และวงเล็บสูงสุดคือ 50 ล้านบาท
– กลุ่มแรกของรายได้ถูกเก็บภาษีที่ 10% และเพิ่มขึ้นถึง 45%
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2018 อัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลหรือบริษัทใดๆ ที่จดทะเบียนในประเทศไทยจะเป็น 25% ของรายได้รวม บุคคลธรรมดาอาจต้องเสียภาษีในอัตรา 12% ของรายได้รวมไม่เกิน 180,000 บาท รายได้เกิน 180,000 บาทต่อปี เสียภาษีอากรในอัตรา 25% บริษัทอาจถูกเก็บภาษีอากรในอัตรา 17% ของรายได้รวมทั้งหมด (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศไทย) ที่ได้รับภายในหรือนอกประเทศไทย

อ่านบทความเกี่ยวกับกฎหมายเพิ่มเติม >> กฏหมายภาษี.com